คำถามที่ลูกค้าพบบ่อย
คำถามที่ลูกค้าถามบ่อย
ถาม : กุ้งแข็งแรง สุขภาพดี ดูอย่างไร ดูที่อะไรบ้าง
ตอบ : กุ้งที่แข็งแรง ดูได้จากการเช็คยอจะง่ายและสะดวกที่สุด โดยกุ้งที่แข็งแรงจะดีดตัวดี ไม่นอนยอ ตัวไม่ขาวขุ่น ไม่งอ ลำตัวต้องไม่มีบาดแผล เปลือกต้องแข็ง มีความมันวาว ตับของกุ้งที่สุขภาพดีจะต้องมีน้ำตาลเข้ม และมีขนาดใหญ่สมกับตัว
ถาม : มีวิธีเลือกลูกกุ้งก่อนปล่อยอย่างไร
ตอบ : ตามเกณฑ์มาตรฐานของกรมประมง จะมีอยู่ 6 ข้อด้วยกัน คือ
- อายุลูกกุ้งต้องมากกว่า PL 10
- ความสะอาดและความสมบูรณ์ของรยางค์และลำตัว(ไม่มีปรสิตเกาะ)
- ความสมบูรณ์ของตับ
- อัตรากล้ามเนื้อต่อลำไส้(MGR) มากกว่า 4:1 แสดงถึงการเจริญเติบโตที่ดี
- ความสมารถในการปรับตัวต่อสภาพแวดล้อม
- ปริมาณเชื้อวิบริโอรวมในลูกกุ้ง ไม่เกิน 103 cfu/g
มาตรฐานต่างๆเหล่านี้ เป็นวิธีการที่ดีแต่อาจมีความยุ่งยากไปสักนิด แต่เกษตรกรสามารถใช้วิธี
ที่ทำได้ง่ายๆ เช่น นำลูกกุ้ง 50 ตัว มาแช่ในน้ำจืด 5 ลิตร เป็นเวลา 30 นาที ต้องไม่พบตัวตาย ถ้าในกรณีที่อนุบาลโดยใช้ความเค็มต่ำ สามารถใช้ ลูกกุ้ง 50 ตัว มาแช่ในฟอร์มาลีน 0.5 ซีซี/น้ำ 5 ลิตร เป็นเวลา 30 นาที ต้องไม่พบตัวตายเช่นกัน
ถาม : ทำอย่างไรให้กุ้งรอด
ตอบ : การเลี้ยงกุ้งในปัจจุบันยากขึ้นมาก เนื่องจากการปรับปรุงพันธุ์ที่อาจผิดพลาด สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม จึงทำให้กุ้งอ่อนแอลง เกษตรกรเองจะต้องมีความเข้มงวดมากขึ้น ในทุกๆด้าน ตั้งแต่การเลือกลูกกุ้ง การเตรียมบ่อเตรียมน้ำ คุณภาพน้ำ แร่ธาตุ สมดุลต่างๆในบ่อทั้งแพลงก์ตอนและแบคทีเรีย โดยสรุปก็คือจัดการเหมือนที่ผ่านมา แต่ต้องเข้มงวดมากขึ้น
ถาม : ผลการตรวจน้ำมีผลต่อการเลี้ยงมากไหม
ตอบ : การตรวจวัดคุณภาพน้ำมีผลต่อการเลี้ยงมาก แต่ในการเลี้ยงกุ้งไม่ใช่แค่การตรวจคุณภาพน้ำอย่างเดียวจะเพียงพอ โดยคุณภาพน้ำจะเป็นตัวบอกว่าน้ำในบ่อขณะนั้นมีความเหมาะสมที่จะเลี้ยงกุ้งมากน้อยเพียงใด ของเสีย หรือแร่ธาตุต่างๆ มีอยู่มากแค่ไหน แต่ในการเลี้ยงยังต้องมีการป้องกันและควบคุมในส่วนของเชื้อโรคด้วย
ถาม : ทำไมฝนตกหนักถึงพบกุ้งตาย ทั้งที่เติมปูนกับตีน้ำแล้ว
ตอบ : ในกรณีที่ฝนตกหนัก จะทำให้ pH , อัลคาไลน์ รวมถึงปริมาณแร่ธาตุต่างๆลดลง การที่เติมปูนลงไปจะสามารถช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่อาจไม่ได้ช่วยในส่วนของแร่ธาตุตัวอื่นๆ นอกจากแคลเซียม ยิ่งฝนตกหนักมาก หรือติดต่อกัน จะส่งผลให้แพลงก์ตอนดรอป ทำให้น้ำเสีย โดยกุ้งอาจตายจากการขาดแร่ธาตุ และน้ำดรอป เป็นต้น
ถาม : พ่อแม่พันธุ์ 1 ชุด ใช้ผลิตไข่ได้กี่ครั้ง 1 ครั้งได้ไข่กี่ฟอง และได้ลูกกุ้งกี่ตัว
ตอบ : แม่พันธุ์ 1 ตัว สามารถให้ไข่ได้ไม่เกิน 3 ครั้ง โดยเฉลี่ย 1 ครั้งให้ไข่ 500,000-1,000,000 ฟอง ได้นอเพลียสประมาณ 300,000-500,000 ตัว และได้กุ้ง PL ประมาณ 100,000-300,000 ตัว
ถาม : ลงยาฆ่าสาหร่ายแล้วทำไมไม่ตาย
ตอบ : สาหร่ายขนาดใหญ่จะมีวิวัฒนาการที่สูงขึ้น ทำให้สามารถทนกับสารเคมีต่างๆได้มากกว่า
แพลงก์ตอน ในการกำจัดต้องใช้สารเคมีที่รุนแรงมากขึ้น หรือปริมาณมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นพิษต่อกุ้งในบ่อ ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อนคือ ตักออก และเมื่อเตรียมบ่อครั้งต่อไปต้องตากบ่อให้แห้ง พร้อมกับลงยาฆ่าสาหร่ายก่อนลงกุ้ง
ถาม : ยาฆ่าเชื้อควรใช้ตอนไหนถึงจะให้ผลดีที่สุด
ตอบ : การใช้ยาฆ่าเชื้อบางกลุ่มที่มีฤทธิ์ฆ่าแพลงก์ตอน และลด O2 เช่น BKC , ฟอร์มาลีน ควรลงช่วงกลางวัน เนื่องจากจะทำให้แพลงก์ตอนกลับมาได้เร็ว และ O2 ไม่ต่ำลงมาก ส่วนยาฆ่าเชื้อบางตัวที่เสื่อมฤทธิ์ได้เร็ว เช่น ไอโอดีน , ด่างทับทิม ควรลงตอนเย็นเนื่องจากเสื่อมฤทธิ์ง่ายเมื่อโดนแสงแดด
ถาม : วัสดุปูนควรใช้ช่วงไหนถึงจะให้ผลดีที่สุด
ตอบ : วัสดุปูนโดยทั่วไปเราจะใช้ในการเพิ่ม pH และ อัลคาไลน์ ซึ่งเวลาที่เหมาะสมในการลงก็คือช่วงเย็น-ค่ำ เพราะจะเป็นการช่วยประคอง pH ไม่ให้ต่ำลงมากช่วงดึก-เช้า แต่ถ้าต้องการให้ช่วยในการสร้างสีน้ำด้วยก็ลงในช่วงเช้าเพื่อให้แพลงก์ตอนดึงไปใช้ได้
ถาม : โดโลไมท์ ช่วยอะไรบ้าง และต้องลงช่วงเวลาไหน
ตอบ : โดโลไมท์เป็นหินปูนจากธรรมชาติ มีในส่วนของธาตุ Ca และ Mg ในรูป CO3 ช่วยในการคุม pH และ อัลคาไลน์ นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการสร้างสีน้ำ จึงลงช่วงเช้าน่าจะเหมาะสมกว่า